วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

ข้าพเจ้าคือตัวโง่งม ที่เปลี่ยนไป


ข้าพเจ้ามีความเชื่อเสมอว่า ทุกความสัมพันธ์นั้นมีเยื่อใยอยู่ ไม่ว่าเรากับใครคนนั้นจะสนิทสนมกันแค่ไหนหรือมากน้อยเท่าไรก็ตาม แต่ถ้าเส้นทางทางชีวิตของเราได้ตัดผ่านกันแล้ว อย่างน้อยที่สุดเราจะมีความทรงจำร่วมกัน มีความผูกพัน ดังนั้นข้าพเจ้ามักมีเยื่อใยให้กับใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรักก็ตาม เพราะอย่างที่กล่าวมาแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อในความสัมพันธ์และที่มากกว่านั้นข้าพเจ้าเชื่อว่าความทรงจำที่มีร่วมกันนั้นมันมีค่า แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อเหล่านั้นของข้าพเจ้าต้องสั่นคลอน คือการที่คนที่ข้าพเจ้าให้ความสำคัญมากกว่าใครกลับบอกออกมาว่า ข้าพเจ้าไม่เคยสำคัญและมีความหมายใด

ความรู้สึกแรกที่รับรู้ คือ ข้าพเจ้านั้นเหมือนตัวโง่งม ทำไมเราถึงเชื่ออะไรอย่างนั้นมาได้ตั้งนาน ความสัมพันธ์ที่เราเชื่อ กับเขานั้นเยื่อใยที่เราให้มันไม่เคยเป็นจริง สิ่งที่ข้าพเจ้าเชื่อมันคือสิ่งที่ข้าพเจ้าเชื่อแต่เพียงผู้เดียว กับเขาเขาคงมีความเชื่ออีกแบบ อาจเป็นความเชื่อแบบที่ว่า "ถ้ามึงโง่ที่จะให้กูเอง มึงก็ต้องให้ต่อไป ให้จนกว่ากูจะเบื่อหรือไม่มึงก็ตาสว่าง" และในที่สุด . . . ข้าพเจ้าตาสว่าง

ในช่วงต้นปีอย่างนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกดีที่ข้าพเจ้าตาสว่าง ข้าพเจ้าจะได้เป็นคนใหม่ในช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น แม้บางอย่างในตัวจะหายไปแต่ข้าพเจ้าก็ได้สิ่งใหม่เข้ามา ต่อจากนี้ความเชื่อของข้าพเจ้าจะเปลี่ยนไปความสัมพันธ์นั้นไม่มีเยื่อใย มันมีแค่เกิดขึ้นและจบลง สิ่งเดียวที่ผู้แพ้จะทำได้ คือการที่เราต้องดูแลตัวเอง

ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า ต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของข้าพเจ้ากับคนนั้นจะเป็นอย่างไร และข้าพเจ้าจะมีเยื่อใยในความสัมพันธ์อื่นอีกหรือไม่ แต่ที่ข้าพเจ้ารู้ ข้าพเจ้าเปลี่ยนไปแล้ว . . . และขั้นต่อไปคงต้องหาวิธีตัดอย่างไรให้ขาด