วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เทศกาลงานศพ (Funeral Festival)


ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านผมไปงานศพมา 3 งาน และแค่ปีนี้เพียงปีเดียว ข้าพเจ้าไปงานศพมากกว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยที่งานแรกเป็นงานคุณยายข้างบ้าน งานที่สองเป็นงานของคุณลุง และงานที่สามเป็นงานของบิดาของเพื่อนสนิท ทุกงานที่ไปมีรูปแบบการจัดงานที่ต่างกัน งานแรกเป็นการจัดแบบไทย งานที่สองเป็นการจัดแบบไทยกึ่งจีน และงานสุดท้ายเป็นการจัดที่ดูเป็นพิธีการและทางการมากที่สุด เพราะบิดาของเพื่อนของข้าพเจ้า ท่านเป็นนายทหาร (ที่มีเกียรติและทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ) แต่ที่ทุกงานศพที่ไปนั้นมีสิ่งที่เหมือนกันคือความเศร้า การพลัดพราก และมารยาท . . . แต่หาใช่ข้าพเจ้าจะเกิดความรู้สึกเหล่านั้นในทุกงานไม่ และงานที่ข้าพเจ้ากับมีความรู้สึกมากที่สุดคืองานสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้าพบเจอบิดาของเพื่อนสนิทไม่ถึง 10 ครั้ง

นั่นอาจเป็นเพราะข้าพเจ้าผูกพันกับเพื่อนคนนี้มาตลอด 7 ปี มันเป็นเพื่อนไม่กี่คนของข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องราว และเป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้าร่ำสุราและปรับทุกข์มากที่สุดตลอด 3 -4 ปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งที่สองที่ข้าพเจ้ามีเพื่อนสนิทที่ต้องสูญเสียบิดา (ครั้งแรกเกิดขึ้นตอน ม.2 ซึ่งข้าพเจ้ายังไม่รู้ความเท่าไรนัก) แต่กับครั้งที่สองครั้งนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าความตายมันช่างใกล้ตัวเรานัก คนที่ข้าพเจ้าพบเจอเป็นประจำ ผูกพัน และมีความเป็นเพื่อนให้แก่กัน ต้องเกิดความสูญเสียที่หนักหนาที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าพเจ้าเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ยิ่งนัก และพยายามทำดีที่สุดเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะทำได้ แต่ถ้าบอกว่า เข้าใจมันไหม ข้าพเจ้าคงบอกไม่ได้ และข้าพเจ้าคงไม่สามารถบอกมันได้ว่า อย่าเศร้าและเสียใจ แต่สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าบอก ข้าพเจ้าคงเพียงได้แต่อยู่เป็นเพื่อนมัน

ข้าพเจ้าไปงานศพคุณยายข้างบ้าน 3 วัน งานศพคุณลุง 4 วันและงานศพบิดาของเพื่อน 6 วัน ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้าไม่มีความจำเป็นต้องไปงานศพบิดาของเพื่อนถึง 6 วัน และข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้มีความสำคัญอะไรในงานศพนั้น แต่ที่ข้าพเจ้าไปเพราะนั่นคืองานศพของบิดาของเพื่อน ครอบครัวของเพื่อนได้สูญเสียคร้งยิ่งใหญ่ไป และเพื่อนของข้าพเจ้าได้สูญเสียบิดาไปตลอดกาล ข้าพเจ้าไปเพราะเพื่อนข้าพเจ้า

ยิ่งข้าพเจ้าไปงานศพติดต่อกัน ข้าพเจ้ายิ่งหดหู่ ยิ่งไปยิ่งรู้สึกเศร้า แต่ข้าพเจ้าไปงานศพบ่อยกว่างานวันเกิด เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่า งานศพคือเวลาที่คนที่เรารักและผูกพันต้องการกำลังใจ มากกว่า คำว่า Happy Birth Day ในงานวันเกิด

ความตายดำรงอยู่ มิใช่ภาคตรงข้าม หากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต