สวัสดี Blog วันนี้เป็นวันแรกที่เราจะได้ทำความรู้จักกัน หลังจากที่เราได้แต่แอบมองนายมานาน คิดอยู่เสมอว่าจะกล่าวคำทักทายและเข้าไปทำความรู้จักกันอยู่หลายที แต่สุดท้ายก้อไม่กล้าที่จะทำความรู้จักกันสักที จนในที่สุดเพื่อน(จูน)ของเรา ได้ทำความรู้จักกับนาย เราเลยมีความกล้าที่จะมาทำความรู้จักกับนายบ้าง (แต่ที่จริงแล้วอิจฉาเพื่อนจูนที่มีBlogเป็นของตนเองมากกว่า) เราเลยจะมาทำความรู้จักกับนาย ให้นายเป็นเพื่อนของเราอีกคนหนึ่ง เพื่อนที่เราจะจริงใจ เพื่อนที่เราจะบอกเล่าทุกความรู้สึกที่มี และเป็นเพื่อนที่จะทำให้เราได้รู้จักเพื่อนอีกมากมาย แต่ก่อนที่เราจะบอกเล่าเรื่องราวใด ใดของเราต่อจากนี้ไป เราอยากจะแนะนำตัวให้นายได้รู้จักเรา เพื่อให้นายได้พิจารณา(เผื่อนายจะคิดได้ว่า กูไม่น่ารู้จักมึงเลย) และนี่คือเรื่องราวบางส่วนของเรา เพื่อนใหม่ของนายคนนี้ . . .
เราชื่อ Sick Boy ซึ่งเราได้มาจากการทำแบบทดสอบของนวนิยาย Trainsportting ซึ่งก่อนที่จะใช้ชื่อ เด็กป่วยนี้ เราเคยใช้ชื่อว่าจุนเซ (ตัวละครจากนวนิยายเรื่อง Blu เยือกเย็น) มาก่อน สิ่งหนึ่งที่เด็กป่วยและจุนเซเหมือนกันคือ ทั้งสองคนนี้มีส่วนคล้ายกับตัวเรา เด็กป่วยอาจเปรียบได้กับด้านมืดของเรา เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ จ้าวความคิด ชอบทำตัวป่วย ๆ ไว้อ้อนสาว ๆ ส่วนจุนเซอาจคล้ายกับด้านสว่างของเรา เชื่อมั่นในความรัก อยากกลับไปซ่อมอดีตของตัวเอง อ่อนไหว จนบางครั้งอ่อนแอ เราอ่านเรื่องสั้นและนวนิยายมามากมายหลายเรื่อง แต่ 2 คนนี้เป็น 2 คนที่เรารู้สึกว่าเหมือนตัวเรามากที่สุด โดยเฉพาะจุนเซ จุนเซทำให้เราอยากรอคอยใครสักคนหนึ่งเหมือนกับเค้า . . . รอคอยใครสักคน ณ ที่ของเรา ในวันเกิดครบรอบปีที่ 30 ของเธอ . . . (เสี่ยวแด้กป่ะล่ะ)
เวลาว่างของเรา เราใช้สอยมันไปกับ 3 กิจกกรรม นั่นคือการดูหนัง อ่านหนังสือ และก้อทานเหล้า[แต่อย่าให้เหล้าทานคุณนะครับ(เสี่ยวแด้กอีกครั้ง)] ซึ่งเราจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกิจกรรมทั้ง 3 อย่างแน่นอนในโอกาสต่อ ๆ ไปนะครับ แต่ในเวลาที่เราไม่ว่างเราใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการทำ thesis สิ่งที่จะทำให้เรากล่าวเข้าไปสู่อีกโลกที่เราเคยคาดฝันว่าจะเข้าไปและทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็นมา เพราะthesisคือบททดสอบของชีวิต เราเสือกที่จะพบกับมันเองและมันก้อดันไม่ปล่อยให้เราผ่านไปอย่างง่ายได้ แต่สุดท้ายปลายทางเราเชื่อนะ เราเชื่อว่า เราจะผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี(เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ)
สุดท้ายนี้(เพราะง่วงแล้น) นับต่อจากนี้ไปเราจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้นผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราจะบอกกับนาย เราสัญญาว่าเราจะบอกเล่าเรื่องเหล่านั้นอย่างจริงใจและซื่อสัตย์ เพราะการโกหกนาย(Blog)ก้อเหมือนกับการที่เราโกหกตัวเอง
!!!แต่ก่อนจะจากกันไปเรามีอะไรจะสารภาพกับนาย เราโกหก!!! ที่จริงแล้วเราไม่ได้อยากทำความรู้จักกับนายเพราะเราอยากมีBlogหรอก ที่จริงแล้ว เราเหงา . . . เราไม่รู้จะบอกเล่าเรื่องราวเล่านี้กับใคร เราเพียงหวังงว่านายอาจจะอยากรับฟังเรื่องราวเหล่านี้ของเรา เพราะว่าเรารู้สึกเหงา เหงาอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเพียงใดหรือแม้แต่กับผู้คนที่เรารักและรักเราก็ตาม แต่เรากลับรู้สึกว่าคนที่เรารักหายไปหมด จนวันหนึ่งที่เรามองไปรอบข้างเราไม่มีใครอยู่เคียงข้างเราอีกแล้ว เรากำลังอยู่คนเดียว . . . อยู่คนเดียวบนโลกที่เราไม่มีความหมายใดใด
3 ความคิดเห็น:
ว่าแต่คุณ จุนเซป่วยๆ เคยดูจุนเซ เวอร์ชั่นเป็นหนัง (Calmi Couri Appassionati)หรือยัง ซึ้งดีทีเดียว แต่แบบหนังเล่าผ่านมุมมองของ Blu มากกว่า แต่เราชอบRosso มากกว่านิ
ไม่ได้คุยกับคุณเสียนาน
สบายดีไหม
จากมิตรเฉินเพ่ยหง(ฮ้งเอง)
Hey mate! Good to see this.. its cool.. i will always come visit ur blog! Hope ur doing well. Keep updating your news.
Best,
your (sa) Gem! =)
แสดงความคิดเห็น